เราคงปฎิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้การสัมภาษณ์งานสำหรับบางบริษัท แค่ภาษาไทยอย่างเดียวอาจจะไม่พอ! ยิ่งถ้าบริษัทที่คุณสนใจเข้าสมัครงานต้องทำงานร่วมกับชาวต่างชาติด้วยแล้ว หลายที่จึงเลือกที่จะเสริมพาร์ทการสัมภาษณ์แบบภาษาอังกฤษเข้ามา นอกเหนือจากการขอดูคะแนนการสอบด้านภาษาต่างๆ
หลายคนอาจจะเกร็งไม่น้อย เมื่อต้องถูกถามเป็นภาษาอังกฤษแบบนี้ แต่อย่างห่วงไป เพราะวันนี้เรา วอลล์สตรีทอิงลิช จะมาไกด์เล็กๆ น้อยๆ ให้คุณกัน
I have……. ability to be an asset to your company.
(ผม / ดิฉัน มีคุณสมบัติ……ที่จะสร้างคุณค่าให้กับบริษัทของคุณ ครับ / ค่ะ)
สำหรับประโยคนี้ เหมาะกับสำหรับคำถามประเภท “Why should we hire you?” (ทำไมเราต้องจ้างคุณ) หรือ “What makes you the best fit for this position?” (อะไรทำให้คุณคิดว่าคุณเหมาะกับตำแหน่งนี้)
โดยส่วนมาก คำถามแนวนี้ทางบริษัทจะต้องการให้คุณได้พรีเซ็นต์ผลงาน และตัวคุณนั่นเอง วิธีที่คุณจะตอบคำถามนั้นได้ดีที่สุด คือการทำความเข้าใจรายละเอียดของตำแหน่งที่คุณสมัคร ก่อนที่จะนำเสนอเอกลักษณ์หรือจุดเด่นในตัวคุณที่ทำให้คุณเหนือกว่าผู้สมัครคนอื่น และสามารถช่วยบริษัทได้อย่างไรบ้าง
I am very outgoing and have the people skills needed to get customers interested.
(ผม / ดิฉัน เป็นคนเข้าสังคมง่าย และมีทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ที่จำเป็นในการทำให้ลูกค้าสนใจ)
ประโยคคำตอบแบบนี้ เหมาะสำหรับคำถามจากทางบริษัทที่ถามถึงตัวตน หรือคุณสมบัติเฉพาะตัวของผู้สมัครนั่นเอง อย่างคำถาม “Tell me about yourself.” (ไหนลองพูดเกี่ยวกับตัวคุณให้ฟังซิ) หรือ “What would you say about your personality?” (คุณมีลักษณะนิสัยอย่างไร)
เคล็ดลับหลักๆ เราอยากให้คุณพูดถึงลักษณะนิสัย บุคลิกภาพที่ดีของตัวคุณให้ตัวเองดูดีที่สุด และควรเล่าอย่างมีชั้นเชิง เช่นประโยคข้างต้นที่เราได้ยกตัวอย่างไป
ตัวอย่างประโยคอื่นๆ : I’d say I’m hardworking and honest. (ผม ดิฉัน เป็นคนขยันขันแข็งและซื่อสัตย์ ครับ / ค่ะ )
I had a bit of trouble with my English classes, but I am trying to improve.
(ผม / ดิฉัน มีปัญหาเล็กน้อยในวิชาภาษาอังกฤษ แต่ ผม / ดิฉัน ก็กำลังพยายามพัฒนาอยู่)
เชื่อว่าคงไม่มีบริษัทไหนถามแต่เรื่องดีๆ ของคุณแน่ และถ้าเกิดทางบริษัทถามถึงจุดด้อย หรือข้อเสียของคุณ อย่างคำถาม “What is your greatest weakness?” (อะไรคือข้อด้อยที่ใหญ่ที่สุดของคุณ) เข้าล่ะ ?
แน่นอนว่าคนเราไม่ควรจะโอ้อวดทักษะที่เกินตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณมองว่าภาษาอังกฤษที่ตนใช้นั่นอยู่ในระดับที่พอสื่อสารได้ แต่ไม่ได้ดีเด่นมาก คำตอบที่เซฟที่สุด ถ่อมตน และแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้นิ่งนอนใจกับการศึกษาภาษาเพิ่มเติมนั่นเอง
I want to further my career. I am looking for bigger challenges and new experiences.
(ผม / ดิฉัน ต้องการความก้าวหน้าในอาชีพ ผม / ดิฉัน จึงมองหาความท้าทายและประสบการณ์ใหม่ๆ)
ไม่มีใครที่ไม่ถามคำถาม “Why are you leaving or have left your job?” (ทำไมคุณถึงลาออกหรือกำลังจะลาออกจากงานเก่า) แน่นอนว่าคงไม่มีใครที่นึกพิเรนท์ ตอบคำถามนี้แย่ๆ ด้วยการเผาที่ทำงานเก่า หรือเจ้านายเก่าอย่างแน่นอน โดยประโยคสุดคลาสสิค และดูกลางที่สุดก็คงหนีไม่พ้นประโยคขช้างต้นนี่นี่แหละ
เพราะนอกจากจะเป็นคำตอบแบบกลางๆ แล้ว ยังเป็นคำตอบที่สื่อให้ทางบริษัทเห็นว่าคุณมีความกระตือรือร้นที่อยากจะพัฒนาต่อไป ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดี และบริษัทไหนๆ ก็อยากจะได้
ตัวอย่างประโยคอื่น : “I recently received my degree, and I want to utilize my educational background in my next position.” ( ผม / ดิฉัน เพิ่งได้รับปริญญามา และ ผม / ดิฉัน ต้องการใช้ความสามารถจากพื้นฐานการศึกษาที่ผมมีกับงานใหม่นี้ ครับ / ค่ะ)
คำตอบนี่จะเหมาะกับเหล่าเด็กจบใหม่ ที่เพิ่งเริ่มต้นสมัครงาน ไม่เคยเริ่มงานกับที่ไหนมาก่อน
My salary requirements are flexible, but I do have significant experience in the field that I believe adds value to my candidacy.”
(สามารถเจรจาได้ ครับ / ค่ะ แต่ ผม /ดิฉัน มีประสบการณ์ในสายงานนี้มาอย่างดี ผมเชื่อว่าตรงนี้สามารถนำมาคิดเป็นเงินเดือนของ ผม / ดิฉัน ได้)
จะบอกว่าประโยคนี้ นับว่าเป็นประโยคกึ่งๆ ปิดท้ายการสัมภาษณ์งานก็ไม่ผิดนัก เพราะเป็นประโยคตอบคำถามสำหรับ คำถามประเภท “What are your salary expectations?” (คุณคาดหวังเงินเดือนเท่าไหร่) ซึ่งมักจะเป็นคำถามปิดท้ายของการสัมภาษณ์งาน บางบริษัทใช้คำถามนี้เป็นอีกหนึ่งคำถามสำคัญที่ใช้ในประเมินการรับคนเข้างานเป็นหลักเลยก็มี
สำหรับใครที่มั่นใจ และมีเงินเดือนในใจที่แน่ชัด ก็สามารถบอกทางบริษัท หรือผู้ที่สัมภาษณ์คุณได้เลย แต่ถ้าใครที่ยังไม่มั่นใจนัก หรือผู้สัมภาษณ์พยายามต่อรองเงินเดือนของคุณอยู่ ก็สามารถตอบประโยคนี้กลับไปได้เช่นกัน
นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างประโยคคำตอบเท่านั้น เพราะของจริงคุณอาจจะต้องเผชิญกับคำถามมากมาย และหลากหลายมากกว่านี้ก็ได้! แต่ไม่ต้องห่วงไป เพราะถ้าเราเตรียมตัว เตรียมพร้อมให้ดี หมั่นเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มเติมจะช่วยให้การสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับคุณแน่นอน แถมยังช่วยสร้างความประทับใจให้ผู้สัมภาษณ์ได้ด้วยนะ!