เพื่อบอกเวลาในภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง คุณควรรู้รูปอดีตของคำกริยา คำกริยาทุกคำจะมีรูปร่างหน้าตาดั้งเดิมที่เราเรียกว่า ‘infinitive’ (เช่น look, make, play) คำกริยาส่วนใหญ่เราจะเรียกว่า ‘Regular verbs’ หรือ “กริยาปกติ” ซึ่งจะมีรูปร่างหน้าตาแบบอดีตเหมือน ๆ กัน นั่นคือการเติม -ed ท้ายคำ ในเมื่อมีกริยาปกติแล้ว ก็ต้องมีกริยาที่ไม่ปกติ เราเรียกว่า ‘Irregular verbs’ ที่ Wall Street English คุณจะได้เรียนทั้ง regular และ irregular verbs สะสมไปทีละเล็กทีละน้อยตลอดทั้งคอร์ศ ซึ่งจะทำให้คุณเรียนและจำได้ง่ายมากขี้น วันนี้เรามีวิธีการเรียน regular และ irregular verbs พร้อมตัวอย่างและเคล็ดลับในการจำมาฝากกัน
ทำความรู้จักกับภาพรวมของคำกริยา
Every verb in English can have a base form, an -ing form, a past simple form and a past participle. กริยาทุกตัวในภาษาอังกฤษมีหน้าตาได้อยู่สี่แบบ คือรูปร่างหน้าตาแบบเดิม แบบเติม -ing แบบ past simple และแบบ past participle
เราจะใช้คำกริยาแบบไม่ผันในกรณีดังต่อไปนี้:
- เป็นปัจจุบัน เช่น “They live in Rome.”
- เป็น infinitive เช่น “I want to learn English.”
เราจะใช้เป็นรูป -ing (หรือมีชื่อเรียกว่า gerund) ในกรณีดังต่อไปนี้:
- บอกเวลาแบบ continuous tenses เช่น present continuous เช่น “He’s working”
- คำกริยานั้นทำหน้าที่เป็นคำนาม “การหรือความ” เช่น “Swimming is good for you.”
และสุดท้ายเราใช้รูป past participle ในกรณีดังต่อไปนี้:
- เป็น perfect tenses เช่น present perfect เช่น “I’ve finished”
- เป็นรูป passive เช่น ”It was made in Japan”
- เป็น adjective เช่น “The chair is broken”
Regular Verbs คืออะไร
Regular verbs ในภาษาอังกฤษใช้เป็นตัวบอกอดีต past simple และ past participle โดยการเติม -ed ที่ท้ายคำกริยา
เช่น
ถ้าเกิดคำกริยานั้นลงท้ายด้วย -y ให้เปลี่ยน -y เป็น -i แล้วเติม – ed เช่น:
ถ้าคำกริยานั้นลงท้ายด้วย -e อยู่แล้ว เราแค่เติม -d เข้าไป เช่น:
ตัวอย่าง regular verbs มีดังต่อไปนี้
“Yesterday Jack studied all day.”
“Raul has accepted the job offer.”
“Have you finished yet?”
“We really liked the film we watched last night.”
วิธีการออกเสียงคำกริยาที่ลงท้ายด้วย -ed มีอยู่สามแบบ ขึ้นอยู่กับเสียงพยัญชนะท้ายของคำนั้น
Irregular Verbs คืออะไร
ในภาษาอังกฤษมี irregular verbs อยู่ประมาณ 200 คำ โดยแบ่งออกได้เป็นสี่กลุ่ม:
- คำกริยาที่มีรูปเหมือนกันทั้งสามช่อง
- คำกริยาที่ช่องสองกับช่องสามเหมือนกัน
- คำกริยาที่ช่องแรกกับช่องสามเหมือนกัน
- คำกริยาที่ทั้งสามช่องผันไม่เหมือนกันเลย
วิธีการเรียน irregular verbs ที่ดีคือจัดประเภทให้คำกริยาเหล่านี้เพราะถ้าคำคล้ายกันก็จะจำได้ง่ายขึ้น irregular verbs ที่พบบ่อยในกลุ่มต่าง ๆ มีดังต่อไปนี้
ตัวอย่างเช่น:
“Our car cost a lot of money but it’s always breaking down.”
“Pasha hurt himself in a soccer match last weekend.”
“My parents have let me stay out late tonight.”
“They put on their jackets because it was very cold.”
ตัวอย่างเช่น:
“They had lunch at a Thai restaurant on Monday.”
“Have you heard the news about the train strike?”
“Tim has sent an email to all the suppliers.”
“Who won the match?” – “The Giants.”
ตัวอย่างเช่น:
“He came back home at 4 a.m. on Saturday.”
“Suzi has become the Managing Director.”
“The dog ran into the garden after Lee opened the door.”
“Has Mrs. O’Connor come back from lunch yet?”
ตัวอย่างเช่น:
“The kids ate a lot of cakes at the party.”
“They drove to the airport and left their car there.”
“Has she taken her tickets yet?”
“I’ve written a letter of application for the manager’s job.”
เคล็ดลับการเรียน
แล้ววิธีที่ดีที่สุดในการเรียน irregular verbs คือวิธีไหนกันล่ะ?
- ตั้งใจจำเมื่อได้เจอ verb ใหม่ ๆ เวลาที่เรียน interactive lesson หรือใน digital workbook
- ให้นำคำกริยาที่ได้เจอใหม่นั้นมาแต่งประโยคเอง
- ทำแบบฝึกหัดออนไลน์เรื่อง irregular verbs หรือทำแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษได้ที่นี่
- เขียนบันทึกประจำวันเป็นภาษาอังกฤษและจดสิ่งต่าง ๆ ที่ได้เจอทุกวัน
- อ่านหนังสือเป็นภาษาอังกฤษ หนังสือจะเต็มไปด้วยคำกริยาในรูปอดีต ดังนั้นการอ่านจะเป็นวิธีที่ดีมากในการฝึกและทบทวน ที่เซนเตอร์ของ Wall Street English อาจจะมีหนังสือให้คุณยืมกลับไปอ่าน
- ไม่ต้องจำ irregular verbs หลายคำในคราวเดียว
- เข้าเรียนคลาสและกิจกรรมโซเชียล คลับเพิ่มเติมที่ Wall Street English เพื่อฝึกฝนใช้คำกริยา regular และ irregular