การสอบ IELTS เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการสอบที่ได้รับมาตราฐานสากล และได้ยอมรับจากหลายสถาบันศึกษา และสถาบันชั้นนำของโลก ดังนั้น ใครที่ต้องใช้ภาษอังกฤษเป็นประจำ และใช้ในหน้าที่การงาน การเรียน ทำให้ IELTS เป็นการสอบครั้งนี้จึงสำคัญมากๆ ! ว่าแต่เราจะเตรียมตัวยังไงดีล่ะ ?
ทำความเข้าใจ ฉบับมือใหม่ ก่อนสอบ IELTS
อย่างที่เราได้พูดไปว่า การสอบ IELTS (International English Language Testing System) คือ การสอบวัดความสามารถทางภาษา ซึ่งข้อสอบถูกออกแบบมาเพื่อประเมินความสามารถของผู้ที่ต้องการเรียนต่อหรือทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารโดยเฉพาะ
IELTS นั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การสอบเพื่อการศึกษาต่อ (Academic Modules) และการสอบเพื่อการฝึกอบรม (General Training Modules) นอกจากรูปแบบการสอบที่แบ่งออกเป็น 2 ประเภทแล้ว ในการทดสอบของ IELTS จะครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ คือ
การสอบการฟัง (Listening) ใช้เวลา 30 นาที
การสอบการอ่าน (Reading) ใช้เวลา 60 นาที
การสอบการเขียน (Writing) ใช้เวลา 60 นาที
การสอบการพูด (Speaking) ใช้เวลา 11-14 นาที
เพราะเป็นการสอบที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ทำให้การทดสอบยังครอบคลุมทักษะต่างๆ ตามที่เราได้ยกตัวอย่างไป และการสอบมักจะไม่มีการฟังซ้ำ ทวนซ้ำอีกด้วย! ดังนั้น
เตรียมตัวยังไง ก่อนสอบ IELTS
การเตรียมตัวในที่นี้ อาจจะไม่ใช่การเรียมตัวแบบปุ๊บปั๊บ แต่ต้องอาศัยระยะเวลาในการทำความคุ้นเคยคุ้นชิน ใครที่อยากจะเตรียมตัว เตรียมพร้อมกันก่อนสอบ มาดูเทคนิคจาก วอลล์สตรีทอิงลิช กันเถอะ
1.ใช้ภาษาอังกฤษให้คุ้นชินในชีวิตประจำวัน
เพราะการสอบ IELTS มีการจับเวลาที่เข้มงวด ซ้ำยังมีการสอบพูดอีกต่างหาก ดังนั้นเราควรหมั่นใช้ภาษาอังกฤษให้บ่อยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การพูดด้วยภาษาอังกฤษกับเพื่อนๆ ชาวต่างชาติให้มากขึ้น การเขียนแคปชั่นลงโซเชียลมีเดีย ตอบโต้ผ่านแชทด้วยภาษาอังกฤษ กระทั่งการดูหนัง ฟังเพลง ลองปรับให้ใช้ภาษาอังกฤษให้มากขึ้นจนคุ้นชิน
เพราะเวลาเจอข้อสอบ นอกจากคุณจะไม่ตื่นเต้นเวลาเจอข้อสบอที่ยาวพรืดเต็มหน้ากระดาษไปด้วยภาษาอังกฤษแล้ว ยังช่วยให้ทำข้อสอบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซ้ำยังจับใจความได้ไวขึ้นตามความเคยชินหากหมั่นใช้บ่อยๆ ด้วยนะ
2. ทำตัวให้ชิน กับศัพท์ยากๆ
สิ่งสำคัญที่สุดในการเตรียมตัวสอบ IELTS โดยเฉพาะช่วง Reading คือการทำตัวเองให้ชินกับคำศัพท์วิชาการในบริบทงานเขียนที่ยาวๆ สำหรับใครที่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ให้ไปอ่านานวิชาการยาวๆ หรือเอาแต่อ่านข่าวสาร บางคนอาจจะเบื่อเอาได้ คุณอาจจะลองเปลี่ยนมาอ่านนิยาย หรือบทความเป็นภาษาอังกฤษต่างๆ ให้มากขึ้น
วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้เห็นศัพท์แปลกๆ ศัพท์ที่หลากหลายแตกต่างจากากรดูหนัง ฟังเพลงทั่วไป ที่มักจะใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายมากกว่า หากเป็นศัพท์เฉพาะทาง ศัพท์แปลกๆ อาจจะต้องหมั่นอ่านนิยายเป็นภาษาอังกฤษดู จะช่วยคุณได้
แน่นอนว่าแค่อ่านอย่างเดียวไม่ได้ บางครั้งเราอยากให้คุณลองจับเวลาที่ชัดเจน หัดอ่านจับใจความ เมื่อคุ้นชินมากขึ้นแล้ว อาจจะลองเปลี่ยนบรรยากาศหาข้อสอบเก่าๆ มาทำเองลองดู และสิ่งสำคัญคือตอนอ่านเฉลย ต้องกลับไปดูด้วยนะว่าผิดเพราะอะไร ตัวโจทย์เขาวางแพทเทิร์นการวางคำตอบมายังไง พอเราเริ่มจับทางได้เราก็จะได้คะแนนมากขึ้น พร้อมทำข้อสอบมากขึ้นด้วย
3. ซ้อมทำ พร้อมจับเวลาตามสอบจริง
อย่างที่เราได้เอ่ยปากบอกไปข้างต้นแล้วว่า การสอบ IELTS จะจำกัดเวลา ซ้ำยังไม่มีการทวนคำถาม หลายครั้งที่ให้ผู้สอบฟัง อ่าน เพียงแค่ครั้งเดียว ในเวลาที่จำกัด ดังนั้นเพื่อให้เวลาสอบจริงเราไม่ตื่นเต้นจนเกินไป หรือทำจนเลยเวลา หลังจากที่หาข้อสอบเก่าๆ มาสอบดูแนวทางแล้ว คุณควรลองจับเวลา ตามเวลาสอบจริงๆ ด้วย
เพราะการตั้งเวลาไม่ใช่แค่ช่วยให้เราทำข้อสอบได้ดีภายใต้แรงกดดัน แต่ยังช่วยให้คุณรู้จุดอ่อนและจุดแข็งของตัวเอง เช่น ถ้าคุณไม่สามารถทำข้อสองการอ่านเสร็จได้ทันเวลา ก็ควรฝึกด้านการอ่านเพิ่มเติม หรือหากต้องการจำศัพท์ให้ดีขึ้น ลองจดศัพท์หรือประโยคสั้นๆ โดยแบ่งตามกลุ่มหรือธีม อย่างศัพท์เกี่ยวกับการศึกษา ศัพท์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และศัพท์เกี่ยวกับอาหาร เป็นต้น
4. หมั่นฝึกฝน พัฒนาเทคนิคตัวเองอยู่เสมอ
เชื่อว่าหลายคนอาจจะลองทำข้อสอบเก่าๆ ของ IELTS เพื่อเป้นการดูแนวทางข้อสอบมาบ้างแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เลย คือ การหมั่นฝึกฝนเทคนิคในการทำข้อสอบนั่นเอง แน่นอนว่าแต่ละคนมีความถนัดที่แตกต่างกันออกไป บางคนใช้เทคนิคอ่านคำถามก่อน แล้วค่อยกวาดตาอ่านจับในความคร่าวๆ เพื่อทำเวลา
หรือบางคนขีดเส้นใต้คำที่เป็น keyword เมื่อต้องสอบการฟัง เพื่อให้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่โ๗ทย์ต้องการจะถาม จะได้ตั้งใจฟังใจความหลักได้ เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าแต่ละคนมีความถนัด มีเทคนิคไม่เหมือนกัน ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองทำแล้วถนัดแนวไหน ลองหมั่นฝึกฝนเทคนิคเหล่านั้นให้มากขึ้น จะช่วยย่นเวลาในการทำข้อสอบไปได้มากเลยล่ะ
การสอบ IELTS อาจจะฟังดูยาก แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อวันนึงคุณพยายามจนสำเร็จ ผลสอบเหล่านี้จะเป็นใบเบิกทางไปสู่อนาคตให้คุณได้อย่างแน่นอน