สำหรับผู้ที่มองว่า การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่วิธีการดูยากเหลือเกิน ก่อนอื่นเลย นอกจากการเตรียมใจยอมรับความเสี่ยงแล้ว คำศัพท์พื้นฐานหลายๆคำสำหรับวิธีการดูหุ้น หรือความเข้าใจคำศัพท์เทคนิคที่เป็นภาษาอังกฤษง่ายๆเวลาอ่านข่าวนั้นถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เรามาดูกันว่า มีคำศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐานอะไรที่เราควรรู้ก่อนบ้าง
Stock exchange ตลาดหลักทรัพย์
ตลาดหลักทรัพย์ในไทยมีสองตลาด คือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET(Stock Exchange of Thailand) และ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI-Market for Alternative Investment) โดยที่ SET เป็นตลาดหลักและนักลงทุนนิยมเล่นมากกว่าเพราะมีสภาพคล่องสูงกว่า เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ ในขณะที่บริษัทใน MAI เป็นบริษัทขนาดกลางและเล็ก ถ้าเป็นนักลงทุนใหม่ แนะนำให้เริ่มที่ตลาด SET ก่อน เพราะมีคนคอยซื้อขายหุ้นอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
Local institutions กลุ่มของนักลงทุน
สถาบันการเงิน หรือ Local institutions เช่น กองทุนที่คนทั่วไปซื้อเพื่อให้เขาบริหารให้บัญชี บล. (บัญชีหลักทรัพย์) หรือ ภาษาอังกฤษคือ Proprietary trader หรือ Brokers นักลงทุนในประเทศ หรือ Retail investors ก็คือนักลงทุนทั่วไป เวลาเล่นเอง เราก็ถือเป็นกลุ่มนี้นักลงทุนต่างประเทศ หรือ Foreign investors คือนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศ
ศัพท์ภาษาอังกฤษ และวิธีการอ่านกระดานหุ้น
นักลงทุนควรรู้วิธีการอ่านกระดานหุ้น เพื่อให้รู้ถึงราคาซื้อขายปัจจุบัน เพื่อดูทิศทางของหุ้นแต่ละตัวว่าขึ้นหรือลง ไว้ประกอบการตัดสินใจซื้อหรือขาย ตัวอย่างดังกล่าวเป็นกระดานหุ้นตอนที่ตลาดกำลังปิด
- สิ่งที่แรกที่ควรรู้คือบริษัทที่เราจะเข้าไปลงทุน มีอักษรย่อว่าอะไร ซึ่งคำที่ใช้คือคำว่า SYMBOL ให้นักลงทุนเข้าใจเวลาซื้อขายหุ้นของแต่ละบริษัท ส่วนใครอยากรู้ว่าชื่อย่อที่แต่ละบริษัทใช้ มีชื่ออะไรกันบ้าง ให้เข้าไปตามลิ้งค์นี้ได้เลย http://www.set.or.th/set/commonslookup.do?msg=nf&language=en&country=US
- เวลาดูบนกระดาน เราต้องรู้จักการอ่านจอแสดงผลให้ออก ว่าหุ้นตัวที่เราสนใจ ปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง เช่นราคาล่าสุด หรือว่า last สีที่แสดงเช่น สีแดงคือ ราคาของหุ้นนั้น ตกลงกว่าวันก่อนหน้า แต่ถ้าแสดงเป็นสีเขียว คือ ราคาขึ้นจากวันก่อนหน้า
- ต่อมาคือ change ราคาเปลี่ยนแปลงไปเท่าไรจากวันก่อนหน้า
- โดยที่มีการแสดงผลเป็น %เปลี่ยนแปลง หรือ %change ว่าตกหรือเพิ่มไปกี่เปอร์เซ็นต์
- Prior คือราคาปิด ของวันทำการซื้อขายก่อนหน้า
- Open คือราคาเปิด ซึ่งไม่จำเป็นต้องเท่าราคาปิด เนื่องจาก ราคาเปิดจะสูงขึ้นหรือต่ำลง ขึ้นอยู่กับความต้องซื้อและขายของนักลงทุนในช่วงที่ตลาดปิดจนถึงเวลาเปิดของตลาด ที่สามารถคีย์ข้อมูลซื้อขายในช่วงตลาดปิดได้ แต่ไม่สามารถกำหนดราคาที่ต้องการซื้อได้
- High คือ ราคาสูงสุดที่มีการซื้อขายในวันนั้น ถ้าเราดูตอนตลาดเปิดอยู่ ตัวเลขนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงตามราคาที่กำลังซื้อขาย
- Low คือ ราคาต่ำสุดที่มีการซื้อขายในวันนั้น ถ้าเราดูตอนตลาดเปิดอยู่ ตัวเลขนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงตามราคาที่ซื้อขายเช่นกัน
- Volume (shares) ปริมาณการซื้อรวมของหุ้น ณ เวลานั้น ส่วนในช่วงเวลาของการซื้อขาย จะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คือมีตัวเลขมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งปิดตลาดในวันนั้น
- Value (‘000 Baht) มูลค่าการซื้อขายรวมของวันนั้นว่า ณ ปัจจุบันเป็นเท่าไร หน่วยเป็นพันบาท (เติม ,000 เข้าไปหลังตัวเลขที่แสดง)
- Average price คือราคาเฉลี่ยของวันนั้น ซึ่งเปลี่ยนตลอดเวลาจนกระทั่งตลาดปิด
- 12. bid price/volume(shares) bid คือ ราคาเสนอซื้อสูงสุดของวันนั้น โดยที่ volume คือ ปริมาณหุ้นทั้งหมดที่มีคนเสนอซื้อที่ราคานี้ โดยที่เปลี่ยนได้ตลอดเวลาระหว่างตลาดเปิด
- offer price/volume(shares) offer ราคาขายต่ำสุด ณ ปัจจุบัน โดยที่ volume คือ ปริมาณหุ้นทั้งหมดที่มีคนเสนอขายที่ราคานี้ โดยที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาระหว่างตลาดเปิด
- ราคา par หรือ par price ราคาที่ผู้ก่อตั้งบริษัทหรือผู้เริ่มต้นธุรกิจนำหุ้นไปจดทะเบียนว่ามีกี่หุ้น ราคาหุ้นละเท่าไร พูดให้เข้าใจง่ายๆคือ ราคาเริ่มต้นของหุ้นตัวนั้นๆ
- Ceiling คือ ราคาเพดาน ซึ่งเป็นเพดานราคาหุ้นสูงสุดที่จะเป็นไปได้ในวันนั้น คิดจาก 30% ของราคาปัจจุบัน ตรงข้ามกับราคา Floor คือ ราคาต่ำสุดที่จะเป็นไปได้ในวันนั้น ซึ่งคำนวนจาก 30% ของราคาเช่นกัน อันนี้เป็นกฎมีไว้เพื่อป้องกันการปั่นหรือทุบหุ้น
หมายเหตุ: ในแอพ Streaming ที่นิยมใช้สำหรับการซื้อขายหุ้น จะมีการแสดงผล ATO และ ATC ซึ่ง ATO คือคำสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ณ ราคาเปิดตลาด และ ATC คือ คือคำสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ณ ราคาปิดตลาด
ทั้งหมดนี้เป็นคำที่ถือได้ว่าเบื้องต้นสำหรับมือใหม่เพิ่งเริ่มจริงๆ ดูๆแล้ว เรื่องตัวเลขนั่นช่างมีความยุ่งยาก กลับมาเรียนภาษาอังกฤษกับเราไปพลางๆก่อนดีกว่า ส่วนใครที่อยากฝึกดูหุ้น อ่านข่าวหุ้น คราวหน้าเราจะมี คำศัพท์ที่คุณต้องรู้เมื่ออ่านข่าวหุ้น มาฝากกันค่ะ ติดตามบทความดีๆ จากวอลล์สตรีทอิงลิช โดยลงทะเบียนรับบทความฝึกภาษาผ่านอีเมล์ ที่ฟอร์มด้านล่างได้เลย