การที่เราจะเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้ได้ผลดีนั้น อาจต้องเริ่มต้นที่การเปิดใจ วางเป้าหมายในการเรียนให้ชัดเจน จากนั้นค่อยๆ ใส่ใจกับเนื้อหาหรือคำศัพท์ต่างๆ รวมถึงหมั่นฝึกฝนการฟัง พูด อ่าน เขียนอย่างสม่ำเสมอ และวันนี้เพื่อให้การฝึกภาษาอังกฤษได้ผลดียิ่งขึ้น เราจึงนำ 5 เทคนิคฝึกภาษาอังกฤษ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจและเก่งภาษาอังกฤษได้ไวขึ้นมาฝากกัน ไปดูกันเลย!
1.ภาษาอังกฤษอยู่รอบตัวเรา
ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง ดูหนัง ดูซีรี่ส์ เราก็สามารถใช้เวลาเหล่านี้เป็นตัวช่วยฝึกฝนสกิลภาษาอังกฤษของเราได้ทั้งนั้น หรือถ้าไม่มีเวลาฟังจะเปิดทิ้งไว้ให้มีเสียงเพลง เสียงคนพูดภาษาอังกฤษอยู่ตลอดก็ยังได้ แล้วปล่อยให้สมองค่อยๆ ซึมซับเรื่องสำเนียง จังหวะการพูดต่างๆ ก็ช่วยได้ไม่น้อยเลยล่ะ ลองสังเกตดูสิคนที่ไปอยู่ต่างประเทศมักจะเก่งภาษาอังกฤษขึ้นมาก ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะได้ซึมซับภาษาอังกฤษที่อยู่รอบตัวตลอดเวลานั่นเอง
2. อ่านทุกอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษ
ไม่จำกัดแค่ต้องเป็นหนังสือเท่านั้นนะทั้งจะเป็นหนังสือพิมพ์, เว็บไซต์, โซเซียลมีเดีย หรือกระทั่งกล่องขนม กับกระป๋องคุ้กกี้ ก็สามารถช่วยเราฝึกภาษาได้ขอแค่เราพยายามอ่านแล้วก็เรียนรู้คำศัพท์ต่างๆ เพราะคำศัพท์ที่เราเห็นนั้น อาจจะมีทั้งคำที่เรารู้ความหมายอยู่แล้ว แต่มาในบริบทที่แตกต่างทำให้ความหมายเปลี่ยนไป หรือคำใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยผ่านตา วิธีนี้จะช่วยเน้นย้ำคำศัพท์ต่างๆ ได้มากขึ้น และยังเป็นการเติมศัพท์ในคลังให้มีเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย งานนี้ถ้าเจอศัพท์แปลกๆ ที่ไม่คุ้นอย่าลืมจดกลับมาหาคำตอบกันด้วยนะ
3. ฝึกคุยกับคนเป็นๆ
อยากพูดภาษาอังกฤษเก่ง เราก็ต้องฝึกพูด! เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง การที่เราจะได้พูดคุยกับคนต่างชาตินั้นสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการสมัครเข้าแอปฯ ฝึกภาษาต่างๆ เรียนออนไลน์ หรือคุยกับชาวต่างชาติในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อย่างตอนที่เขาถามทางหรือให้เราช่วยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวก็ได้
ตัวช่วยต่างๆ นี้อาจจะเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเพื่อนต่างชาติให้เม้าท์มอย แต่ถ้าใครพอจะมีคนใกล้ตัวอยู่แล้ว อย่ารอช้าเปิดประเด็นสนทนาสนุกๆ แล้วเริ่มคุยกันเลย และเมื่อเริ่มสนทนาไปหากเราฟังไม่เข้าใจ หรือเขาพูดเร็วไป เราก็สามารถบอกเขาพูดช้าลง ได้ด้วยวลีหรือประโยคต่อไปนี้
- Slowly , please =ช้าหน่อยได้ไหมคะ/ครับ
- Could you please speak slowly? = กรุณาพูดช้าๆได้ไหมคะ / ครับ
หรือถ้าเราฟังไม่ชัดแล้วต้องการให้เขาพูดซ้ำ ก็เพียงบอกเขาว่า Again , please = อีกครั้งได้ไหมคะ/ครับ
Pardon me. = ขอโทษนะคะ/ครับ (มีความหมายแฝงว่า เราต้องการให้เขาพูดซ้ำ) เป็นต้นจ้า
อ้อ! สิ่งสำคัญสำหรับข้อนี้ คือ ความกล้า อย่ากลัวที่จะพูดผิด เพราะถ้าเราไม่พูดออกไป เราก็จะไม่มีวันรู้เลยว่าสิ่งที่เราเข้าใจ และพยายามฝึกฝนมาตลอดนั้นใช้ได้จริงหรือเปล่า
4. ฝึกการสนทนาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ลองดูสิว่าในชีวิตประจำวันของเราอย่าง การสอบถามเส้นทาง จองตั๋วหนัง ซื้อของ สั่งอาหาร ถ้าเราต้องสื่อสารทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษเราจะต้องพูดอย่างไร
ซึ่งถ้าลองนึกแล้วยังคิดไม่ออก ให้เรากลับมาหาอ่านดูจากหนังสือ หรือเว็บไซต์เกี่ยวที่สอนภาษาอังกฤษ ว่าบทสนทนาในสถานการณ์นั้นเป็นอย่างไร และต้องพูดอะไรบ้าง วิธีนี้จะช่วยให้เราจดจำและเข้าประโยคบทสนทนาได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
5. ให้กำลังใจตัวเองบ่อยๆ
การเรียนภาษาอังกฤษถึงจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความตั้งใจ กำลังใจและความเอาใจใส่ไม่ใช่น้อย บางคนอาจจะท้อ โมโหตัวเอง เมื่อรู้สึกว่าเรียนแล้วไม่ได้อะไร เรียนแล้วยังไม่เข้าใจ อย่าตัดพ้อตัวเองว่า “ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้” หรือ “ฉันคงไม่มีวันเข้าใจ” ลองปรับเปลี่ยนซะใหม่ให้กำลังใจตัวเองด้วยคำพูดดีๆ ทัศนคติดีๆ เช่น “ภาษาอังกฤษของฉันกำลังพัฒนาขึ้นในทุกๆ วัน” “มันอาจจะไม่ง่าย แต่มันคุ้มค่า” หรือ “ฉันเข้าใจภาษาอังกฤษขึ้นมากถ้าเทียบกับ 6 เดือนที่แล้ว” หรือประโยคอื่นๆ เพื่อคอยเตือนและให้กำลังตัวเองในการฝึกฝนภาษาอังกฤษ เป็นต้น