อยากเก่งอะไรต้องหมั่นฝึกฝน ภาษาอังกฤษก็เช่นกัน แต่ถ้าใครไม่ค่อยว่างหรือไม่มีเวลานั่งเปิดตำรา ไม่ต้องกังวลไป เพราะเรามี 7 แอปพลิเคชัน สอนภาษาอังกฤษ ที่จะช่วยให้คุณสามารถ ฝึกภาษาอังกฤษ ได้ทุกที่ ทุกเวลาอย่างที่ใจต้องการมาฝากกันด้วยล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว เรามาลุยกันเลย
1.Echo English
เป็นแอปพลิเคชันสอนภาษาที่ถูกพัฒนาโดยกระทรวงศึกษาธิการและภาคเอกชน มีบทเรียนให้เราได้ลองฝึกฝนทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน ประมาณ 200 บทเรียน โดยเนื้อหาในแต่ละหลักสูตรจะมาในรูปแบบของวีดีโอที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเรียนรู้สำนวนภาษาอังกฤษพื้นฐาน บทสนทนาทั่วไปในชีวิตประจำวัน ภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจการค้าและการบริการ วิชาชีพต่างๆ รวมไปถึงการถามทาง การซื้อของ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้หลังจากดูคลิปจบจะมีการทำแบบทดสอบทั้งการฟัง อ่าน เขียน เพื่อให้ระบบช่วยประเมินการฝึกฝน และให้คำแนะนำกับเราได้อีกด้วย
ระบบรองรับ : iOS/ Android
ราคา : ฟรี
2.Speak Practice your English
แอปพลิเคชันนี้เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเน้นทักษะการพูดและการฟัง เพราะเจ้าแอปฯนี้จะสร้างตัวละครขึ้นมาคุยกับเราในรูปแบบคล้ายกับการแชทแล้วเราก็ส่งเป็นคลิปเสียงกลับไป ซึ่งแต่ละตัวละครที่เราคุยด้วยก็จะมีสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป แถมเมื่อผ่านการทดสอบยังเป็นการปลดล็อคตัวละครอื่นๆ ทำให้ได้เรียนรู้บทสนทนาใหม่ๆ และที่เจ๋งสุดๆ เลยคือ เวลาที่เราฝึกพูดแต่ละคำ จะมีระดับสีบ่งบอกถึงระดับความเข้าใจว่าคนอื่นจะฟังเราเข้าใจมากน้อยแค่ไหนอีกด้วย
ระบบรองรับ : iOS/ Android
ราคา : ฟรี
3.English with Andy
อยากฝึกภาษาอังกฤษแต่ไม่รู้จะคุยกับใคร แอปฯนี้ช่วยได้! เพราะเราจะได้ฝึกภาษาไปกับเจ้าแชทบอทที่มีชื่อว่า ‘Andy’ ที่เราสามารถถาม-ตอบพูดคุยในเชิงสนทนา แถมเรายังสามารถถามคำศัพท์ต่างๆ กับ Andy ได้ด้วยนะ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของฟีเจอร์ต่างๆ อย่าง Vocabulary กับ Grammar ไว้ให้ฝึกฝนกัน แล้วก็ยังมีในส่วนของ Progress ที่จะคอยช่วยประมวลผลการเรียนรู้ของเราแบบคร่าวๆ ด้วย
ระบบรองรับ : iOS/ Android
ราคา : โหลดฟรี แต่อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 30 ต่อเดือน ในการปลดล็อคฟีเจอร์บางส่วน
4.Duolingo
แอปพลิเคชันฝึกภาษาอังกฤษหน้าตาน่ารัก ที่มาพร้อมกับลูกเล่นแบบการเล่นเกม สะสมคะแนน เป็นแอปฯฝึกภาษาที่มีภาษาให้เลือกเรียนหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ภาษาอังกฤษ สเปน อิตาลี เกาหลี และอื่นๆ มีการทดสอบความรู้พื้นฐานก่อน เพื่อเลือกบทเรียนที่เหมาะสมกับเรา เป็นแอปฯที่มาครบทั้ง Grammar, Vocabulary, การแปล, การฟังและการพูด รวมถึงยังมีแบบฝึกหัดย่อยๆ ที่สามารถเรียนรู้ในเวลาแค่เพียง 5-10 นาที ทีนี้ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็สามารถฝึกภาษาได้ง่ายๆ แล้ว
ระบบรองรับ : iOS/ Android
ราคา : ฟรี
5.English hello-hello
แอปพลิเคชันฝึกภาษาที่มีภาษาให้เลือกเรียนรู้ถึง 11 ภาษาด้วยกัน ซึ่งวิธีการเรียนรู้ก็จะคล้ายๆ กับแอปพลิเคชัน Echo คือจะเป็นตัวละครจำลองสถานการณ์ต่างๆ ที่เราต้องเจอในชีวิตประจำวัน เช่น การซื้อของ เหตุการณ์ในร้านอาหาร การทำธุรกรรมในธนาคาร หรือการพูดถึงสิ่งที่เราสนใจ นอกจากนี้แอปพลิชันตัวนี้ยังไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือ WiFi ขณะใช้งานด้วยล่ะ เรียกว่าช่วยพัฒนาสกิลภาษาทั้ง Vocabulary และ Grammar ได้ทุกที่ทุกเวลาเลยทีเดียว
ระบบรองรับ : iOS/ Android
ราคา : ฟรี
6.Memrise
แอปฯ ฝึกภาษาตัวนี้บอกเลยว่าไม่ธรรมดา! เพราะมีรางวัล Best App Google Play Awards 2017 และ Best App For iPhone&iPad มาการันตีความเจ๋ง เจ้าแอปพลิเคชันนี้สามารถช่วยให้คุณเรียนรู้คำศัพท์ต่างๆ ได้มากกว่า 90 ภาษา โดยจุดเด่นของแอปฯ นี้คือ จะช่วยให้คุณจดจำคำศัพท์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าไปเรียนบทเรียนของเพื่อนสมาชิก หรือสร้างบทเรียนให้คนอื่นเข้ามาเรียนได้ และที่สำคัญคุณยังสามารถพูดคุยกับเจ้าของภาษา ได้ด้วยกลุ่มแชทในแอปพลิเคชัน แถมยังมีฟังก์ชันช่วยฝึกการออกเสียง ให้ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากที่สุดด้วย
ระบบรองรับ : iOS/ Android
ราคา : ฟรี
7.Busuu
ปิดท้ายกันที่แอปพลิเคชัน BuSuu แอปฯ ฝึกภาษาที่มีภาษาให้เลือกเรียนมากมายทั้ง ภาษาอังกฤษ, เยอรมัน, ญี่ปุ่น และจีน เป็นต้น จุดเด่นของแอปฯ นี้คือ เราสามารถพูดคุยกับเพื่อนที่เรียนภาษาเดียวกับเรา รวมไปถึงเจ้าของภาษาด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีการสรุปผลการเรียนให้กับเราด้วย งานนี้จะ Vocabulary, Gramma หรือ Conversation ก็จะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากและน่าเบื่ออีกต่อไป
ระบบรองรับ : iOS/ Android
ราคา : มีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 32.00 – 5,899.00 บาท ต่อรายการ