อย่างที่เราทราบกันดีว่า Present Perfect tense เป็นหนึ่งใน tense ที่ท้าทายที่สุดสำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งจะถูกใช้ในหลายๆสถานการณ์และมักจะมีความหมายที่ค่อนข้างจะแตกต่างกัน แต่ถ้าเรามีคำแนะนำที่ดีประกอบกับการทำฝึกหัดที่สม่ำเสมอ คุณก็สามารถมั่นใจที่จะใช้ tense ที่สำคัญนี้ได้อย่างไม่ติดขัด เรามาลองดูกันถึงการใช้ Present Perfect tense ในรูปแบบของ Active form และ หลังจากนั้นจะมาดูถึงวิธีการใช้ Passive form ในรูปแบบต่างๆ
การใช้ Present Perfect Tense
Present Perfect Tense เป็น tense ที่ใช้บรรยายบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับอดีตที่ได้มีความเชื่อมโยงกับปัจจุบัน ซึ่งมันสามารถอธิบายถึงประสบการณ์ในอดีตที่มีความสำคัญต่อปัจจุบัน หรือที่อ้างอิงกับการกระทำที่ได้เกิดขึ้นไปแล้วในอดีตและยังคงต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน หรือมันสามารถแสดงให้เห็นถึงการกระทำที่ผ่านมาที่สร้างผลลัพธ์ ณ ปัจจุบัน
โครงสร้างประโยค
เราสร้างประโยค Present Perfect โดยการใช้คำกริยา (verb) “have” และคำกริยา past participle (verb ช่อง 3) ตัวอย่างเช่น
“You have finished.”
สำหรับประโยคคำถามเราจะขึ้นต้นด้วย “have” และตามด้วยประธานของประโยค
”Have you finished?”
และเพื่อที่จะสร้างประโยคปฏิเสธ เราก็เพียงแค่เติม “not” ลงไป
“You haven’t finished.”
ในกรณีของประธานเอกพจน์ที่เป็นบุคคลที่สามจะต้องมีการผันกริยาเล็กน้อยจาก “have” เป็น “has” ตัวอย่างเช่น
“She has finished”
โดยทั่วไปแล้ว Present Perfect tense มักจะใช้คำที่แสดงให้เห็นถึงเวลาที่ยังไม่เสร็จสิ้น เช่น today, this week, this year, in my life และมักจะใช้ adverb yet, already, just, ever และ never บ่อยๆ ในประโยค Present Perfect เหล่านี้ และเมื่อเราพูดถึงการกระทำหรือสถานการณ์ที่ยังไม่เสร็จสิ้นเรามักจะใช้ for และ since
การใช้งานหลัก
มาดูถึงรายละเอียดของ 3 สถานการณ์หลักๆ ที่เราใช้ Present Perfect พร้อมไปกับประโยคตัวอย่าง
- การกระทำที่ผ่านมา
เราใช้ Present Perfect เพื่ออธิบายการกระทำที่ผ่านมาหรือใช้ถามถึงบางสิ่งบางอย่างที่ได้เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ โดยมักจะถูกใช้ควบคู่กับคำว่า just, already, yet, still ตัวอย่างเช่น
Jack’s asked me to marry him! I’m so happy!
(การกระทำในอดีตที่พึ่งผ่านมา – ส่งผลมาถึงปัจจุบัน)
Have you finished reading the newspaper yet?
Ann’s just called. She’s missed her bus and will be here late.
- ประสบการณ์ชีวิต
เราสามารถใช้ Present Perfect เพื่อพูดถึงสิ่งสำคัญที่เราได้ทำลงไป ในกรณีเรามักจะใช้ ever และ never ตัวอย่างเช่น
I’ve been to Canada. Have you ever been there?
How many times have you travelled abroad?
He’s won a lot of competitions during his sports career.
- การกระทำที่ยังไม่เสร็จสิ้น
การใช้ Present Perfect ในสถานการณ์ที่สามนี้ เราจะใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่ได้เริ่มต้นในอดีตแต่ยังดำเนินต่อมาถึงปัจจุบัน โดยเราจะใช้ for และ since ตัวอย่างเช่น
He’s worked here for 18 years.
We’ve lived in the city center since 2008.
How long have you known Pablo?
การใช้ Present Perfect ในรูปแบบของ Passive form
ในตัวอย่างข้างต้นเราแสดงให้เห็นถึง Present Perfect ในรูปแบบของ Active form ที่หมายถึงประธานซึ่งเป็นบุคคลหรือสิ่งของได้แสดงการกระทำ
เมื่อเราใช้รูปแบบ Passive form เราจะโฟกัสความสนใจไปที่ “ใคร” หรือ ”อะไร” ที่รับการกระทำนั้นๆ (กรรม) เราจะใช้รูปแบบ Passive form แทบจะทุกประโยคของ Present Perfect ในภาษาอังกฤษ และสร้างประโยคขึ้นมาโดยใช้ verb ‘to be’ ตัวอย่างเช่น
ในประโยค Present Simple
ACTIVE: People collect the goods.
PASSIVE: The goods are collected.
ในประโยค Past Simple ประโยคจะกลายเป็น
ACTIVE: People collected the goods yesterday.
PASSIVE: The goods were collected yesterday.
และเมื่อจำเป็นเราสามารถใช้กับ Present Perfect ได้ ตัวอย่างเช่น
ACTIVE: People have collected the goods.
PASSIVE: The goods have been collected.
เรามักจะใช้ Present Perfect ในรูปแบบของ Passive form โดยอาศัยหลักการเดียวกันทั้งหมดกับที่เราใช้ใน Active form ที่ใช้เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านมา ประสบการณ์ และ การกระทำหรือเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่
ในรูปแบบของ Present Perfect ที่ใช้ Passive form เราต้องใช้ “has/have been” เสมอ + past participle (verb ช่อง 3) ตัวอย่างเช่น
The staff have been trained.
The reports have been written.
Have the candidates been interviewed?
The applications haven’t been checked yet.
Have you been introduced to the new manager?
He’s been taken to see the President.
Sara has been promoted three times in her career.
The waste products have been left here since last February.
ที่นี่เราก็ทราบกันแล้วถึงการใช้ Present Perfect ในทั้งรูปแบบของ Active form และ Passive form ที่ซึ่งจะช่วยคุณในเวลาทำงานและไปท่องเที่ยว มาลองฝึกทำแบบฝึกหัดกันเถอะ